อุปกรณ์ไฟฟ้าครบครัน
ซื้อได้ในที่เดียว
จำหน่าย อุปกรณ์ไฟฟ้าโรงงาน อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน อุปกรณ์งานระบบไฟฟ้าทุกชนิด สายไฟ ตู้ไฟ ท่อไฟ โคมไฟ สวิทช์ไฟ เบรกเกอร์ ขายส่ง อุปกรณ์ไฟฟ้า หลายยี่ห้อ สินค้าดี มีคุณภาพ ตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายยี่ห้อ มีหน้าร้าน ตั้งอยู่ที่ ปากซอย 67 ถนนพระราม2
เฟสโพรเทคชั่น คืออะไร
เฟสโพรเทคชั่น (Phase Protector) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะในระบบ 3 เฟสที่ต้องการความปลอดภัยและความเสถียรในการทำงาน อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจจับความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นในแรงดันไฟฟ้าระหว่างเฟส รวมถึงกรณีที่มีไฟตก ไฟเกิน หรือแรงดันไม่สมดุล ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ในระบบได้ การติดตั้งเฟสโปรเทคชั่นจึงช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายและช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้
คุณสมบัติของเฟสโพรเทคชั่น
เฟสโพรเทคชั่นมีคุณสมบัติในการตรวจจับและป้องกันความผิดปกติของแรงดันไฟฟ้าในระบบ 3 เฟส โดยสามารถตรวจจับและตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเมื่อตรวจพบสภาวะไฟตก ไฟเกิน หรือแรงดันไม่สมดุล นอกจากนี้ยังมีระบบตั้งค่าเปอร์เซ็นต์ของแรงดันที่ต้องการป้องกัน ทำให้สามารถปรับให้เหมาะสมกับแต่ละระบบได้เฟสโพรเทคชั่น มีกี่ประเภท
เฟสโพรเทคชั่น มี 5 ประเภท คือ- เฟสโพรเทคชั่นสำหรับไฟเกิน (Over Voltage Protection) : ป้องกันอุปกรณ์จากความเสียหายที่เกิดจากแรงดันเกินกว่าระดับที่กำหนด
- เฟสโพรเทคชั่นสำหรับไฟตก (Under Voltage Protection) : ป้องกันเมื่อแรงดันต่ำกว่าระดับที่ปลอดภัย
- เฟสโพรเทคชั่นสำหรับแรงดันไม่สมดุล (Unbalance Protection) : ป้องกันความเสียหายที่เกิดจากแรงดันไม่สมดุลในแต่ละเฟส
- เฟสโพรเทคชั่นสำหรับไฟขาดเฟส (Phase Loss Protection) : ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นหากเกิดการขาดของเฟสใดเฟสหนึ่ง
- เฟสโปรเทคชั้นสำหรับป้องกันการกลับเฟส (Phase Reverse Protection) : ป้องกันไม่ให้เครื่องจักรหรือมอเตอร์ทำงานผิดทิศทาง อันเนื่องมาจากการสลับลำดับเฟสของแหล่งจ่ายไฟในระบบไฟฟ้า
เฟสโพรเทคชั่น มีหน้าที่ทำอะไร
- ตรวจจับการเพิ่มขึ้นของแรงดันที่เกินกว่าระดับปลอดภัย
- ตัดการทำงานเมื่อแรงดันลดต่ำกว่าระดับที่กำหนด
- ควบคุมการทำงานในกรณีที่แรงดันไม่สมดุลกันในแต่ละเฟส
- ป้องกันความเสียหายเมื่อเกิดการขาดเฟสในระบบไฟฟ้า
- แจ้งเตือนผู้ใช้งานเมื่อตรวจพบสภาวะที่อาจเป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า
หลักการทำงานของเฟสโพรเทคชั่น WIP
เมื่อมีการเพิ่มของแรงดันไฟฟ้าเกินระดับที่ตั้งไว้ ระบบจะเริ่มนับเวลาหน่วงตัด (Delay off) และตัดวงจรเมื่อครบตามเวลาที่ตั้งไว้ โดยรีเลย์จะอยู่ในสภาวะปิด (De-energize) จนกว่าแรงดันจะกลับสู่ระดับปลอดภัย จากนั้นรีเลย์จะเปิดการทำงานอีกครั้งโดยอัตโนมัติ ในกรณีของไฟตก หากแรงดันลดต่ำกว่าระดับที่ตั้งไว้ ระบบจะทำงานคล้ายกับกรณีไฟเกิน โดยตัดการทำงานชั่วคราวและต่อการทำงานใหม่เมื่อแรงดันกลับสู่สภาวะปกติสำหรับกรณีแรงดันไม่สมดุลในแต่ละเฟส หากมีความต่างของแรงดันมากกว่าที่กำหนด ระบบจะตัดวงจรทันทีที่ถึงเวลาหน่วงที่ตั้งไว้ และจะเปิดการทำงานใหม่เมื่อแรงดันกลับมาเท่ากันในแต่ละเฟส ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าจะทำงานได้อย่างเสถียรและปลอดภัยต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าภายในระบบประโยชน์ของเฟสโพรเทคชั่น
- ลดความเสียหายของมอเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าในระบบ
- ป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและปัญหาทางไฟฟ้าอื่น ๆ
- ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า
- เพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งาน
- ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง
เฟสโพรเทคชั่น ใช้ร่วมกับอุปกรณ์อะไรได้บ้าง
- มอเตอร์ไฟฟ้า : เพื่อป้องกันความเสียหายจากไฟตกและไฟเกิน
- แผงควบคุมไฟฟ้า (Control Panel) : ป้องกันระบบไฟฟ้าในแผงควบคุมจากการลัดวงจร
- ระบบจ่ายไฟอัตโนมัติ (Automatic Transfer Switch) : ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ
- ตู้คอนซูมเมอร์: เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานไฟฟ้าภายในอาคาร
- รีเลย์ป้องกันแรงดันไฟฟ้า (Voltage Protection Relay) : ตรวจจับความผิดปกติของแรงดันเพื่อป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์ไฟฟ้า
สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อเฟสโพรเทคชั่น
- ตรวจสอบแรงดันและกำลังไฟฟ้าของระบบให้เหมาะสมกับประเภทเฟสโปรเทคชั่น
- เลือกเฟสโพรเทคชั่นที่รองรับการติดตั้งแบบ DIN Rail เพื่อความสะดวกในการติดตั้ง
- คำนึงถึงคุณสมบัติในการตรวจจับแรงดันไฟตกและไฟเกินในช่วงเปอร์เซ็นต์ที่ต้องการ
- เลือกอุปกรณ์ที่มีฟังก์ชันแจ้งเตือนและแสดงสถานะเมื่อเกิดปัญหา
- ตรวจสอบว่าเฟสโปรเทคชั่นสามารถตั้งค่าหน่วงเวลาและ Differential ได้