อุปกรณ์ไฟฟ้าครบครัน
ซื้อได้ในที่เดียว
จำหน่าย อุปกรณ์ไฟฟ้าโรงงาน อุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน อุปกรณ์งานระบบไฟฟ้าทุกชนิด สายไฟ ตู้ไฟ ท่อไฟ โคมไฟ สวิทช์ไฟ เบรกเกอร์ ขายส่ง อุปกรณ์ไฟฟ้า หลายยี่ห้อ สินค้าดี มีคุณภาพ ตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายยี่ห้อ มีหน้าร้าน ตั้งอยู่ที่ ปากซอย 67 ถนนพระราม2
ท่อ IMC คืออะไร
ท่อ IMC (Intermediate Metallic Conduit) คือท่อโลหะชนิดหนาปานกลางที่ใช้ในการร้อยสายไฟ มีความทนทานสูงและสามารถติดตั้งในหลายรูปแบบทั้งการเดินลอย การเดินซ่อนในฝ้าเพดาน และการฝังในคอนกรีต ท่อ IMC มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 15 มิลลิเมตรจนถึง 100 มิลลิเมตร ทำให้สามารถรองรับการใช้งานในโครงสร้างขนาดใหญ่และงานติดตั้งที่ต้องการความแข็งแรงมากกว่าท่อโลหะบาง EMT
วิธีการเลือกใช้งานท่อ IMC ให้เหมาะกับงาน
การเลือกใช้งานท่อ IMC ควรพิจารณาจากลักษณะของงานและสภาพแวดล้อมที่ต้องการใช้งาน โดยหลักการเลือกใช้งานท่อ IMC มีดังนี้- พิจารณาความทนทานต่อการกัดกร่อน : หากติดตั้งในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือเสี่ยงต่อการกัดกร่อน ควรเลือกใช้ท่อ IMC ที่ชุบสังกะสีเพื่อป้องกันสนิม
- เลือกขนาดให้เหมาะสมกับสายไฟ : ควรเลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับสายไฟที่ต้องการร้อยผ่าน เพื่อความสะดวกในการติดตั้งและการซ่อมบำรุงในภายหลัง
- พิจารณาลักษณะของงานติดตั้ง : หากเป็นงานฝังในคอนกรีตหรือต้องการความทนทานสูง ควรเลือกท่อ IMC ที่มีความแข็งแรงเพียงพอ
คุณสมบัติของท่อ IMC
- แข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทก
- ทนทานต่อการกัดกร่อน โดยเฉพาะท่อที่ชุบสังกะสี
- เหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการเดินลอย ซ่อนในฝ้า และฝังในคอนกรีต
- มีขนาดและความยาวหลากหลาย รองรับงานขนาดเล็กและขนาดใหญ่
ขนาดของท่อ IMC มีกี่แบบ
มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 15 มิลลิเมตร ถึง 100 มิลลิเมตร สามารถเลือกความยาวตามความต้องการของงาน- ขนาด 1/2 นิ้ว : เหมาะสำหรับงานเดินสายไฟในพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น อาคารพักอาศัยหรือสำนักงานที่ใช้จำนวนสายไฟไม่มาก ท่อขนาดเล็กช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างประหยัดพื้นที่
- ขนาด 3/4 นิ้ว : นิยมใช้ในงานเดินสายไฟทั่วไปในอาคารพาณิชย์และโรงงานขนาดเล็ก รองรับสายไฟจำนวนปานกลาง เพิ่มความปลอดภัยและความเป็นระเบียบในการจัดวางสายไฟ
- ขนาด 1 นิ้ว : เหมาะสำหรับงานที่มีการเดินสายไฟในปริมาณมากขึ้น เช่น อาคารสำนักงานขนาดใหญ่และห้องควบคุมไฟฟ้า ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดความร้อนและปัญหาการรบกวนของสัญญาณไฟฟ้า
- ขนาด 1 1/4 นิ้ว : ใช้ในงานติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้าเป็นปริมาณมาก เพิ่มความแข็งแรงในการป้องกันสายไฟจากแรงกระแทก
- ขนาด 2 นิ้ว : เหมาะสำหรับงานในโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และงานที่มีการเดินสายไฟฟ้าหนาแน่น ท่อขนาดใหญ่ช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียหายและเพิ่มความสะดวกในการบำรุงรักษา
- ขนาด 4 นิ้ว : ใช้ในงานโครงสร้างขนาดใหญ่พิเศษ เช่น โรงงานที่ต้องการการเดินสายไฟจำนวนมากและหนัก รองรับสายไฟในปริมาณมากได้ดี ช่วยป้องกันการเกิดความร้อนในระบบ
อุปกรณ์ที่สามารถใช้ร่วมกับท่อ IMC มีอะไรบ้าง
- แคล้ม : ใช้ยึดท่อ IMC ให้ติดกับผนังหรือพื้นผิวต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความมั่นคง
- บุชชิ่ง : ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้สายไฟขูดกับขอบท่อ ช่วยลดความเสี่ยงของการเสียหายต่อสายไฟ
- รางตัวซี C ตื้น-ลึก : ใช้ในการติดตั้งท่อหลายเส้นบนพื้นผิวเดียวกัน ช่วยจัดการระบบเดินท่อให้เป็นระเบียบ
- ล็อคนัท (Lock Nut) : ใช้ในการยึดท่อให้แน่นหนากับกล่องหรืออุปกรณ์เชื่อมต่อ
- ข้อต่อหนา IMC : ใช้เชื่อมท่อ IMC สองเส้นเข้าด้วยกัน เพิ่มความแข็งแรงในการติดตั้ง
- ยูโบลท์ (ตัวยู) : ใช้ยึดท่อให้ติดแน่นกับโครงสร้างหรือผนัง ช่วยลดการเคลื่อนไหวของท่อ
- ไพพ์แฮงเกอร์ (แคล้มแขวนท่อ) : ใช้แขวนท่อ IMC ให้ลอยจากพื้นผิว เพื่อความเป็นระเบียบและลดการสัมผัสกับพื้นที่อาจเกิดสนิม
สิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อท่อ IMC
- ประเภทของท่อ IMC ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน ท่อ IMC มีหลายประเภทให้เลือก เช่น แบบชุบสังกะสี (Galvanized) ที่มีความทนทานต่อการเกิดสนิม เหมาะสำหรับพื้นที่ชื้นและกลางแจ้ง หรือแบบชุบด้วยวัสดุเคลือบพิเศษที่ทนทานต่อสารเคมี เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้สารเคมีหรือกรด-ด่างสูง ควรเลือกประเภทท่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เพื่อให้ท่อมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัยต่อระบบไฟฟ้า
- ขนาดของท่อ IMC ที่เหมาะกับปริมาณสายไฟ ขนาดท่อ IMC มีตั้งแต่ 15 มิลลิเมตร (1/2 นิ้ว) ไปจนถึง 100 มิลลิเมตร (4 นิ้ว) ควรเลือกขนาดท่อให้เหมาะสมกับจำนวนสายไฟที่ต้องการร้อยผ่าน หากท่อเล็กเกินไปจะทำให้การติดตั้งลำบากและเกิดความร้อนสะสมได้ง่าย แต่หากเลือกท่อที่ใหญ่เกินไปจะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยไม่จำเป็น การเลือกขนาดท่อที่พอดีจะช่วยให้ติดตั้งง่ายและสะดวกต่อการซ่อมบำรุง
- การตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการผลิตของท่อ IMC การเลือกซื้อท่อ IMC ที่มีมาตรฐานการผลิตสูงเป็นสิ่งสำคัญในการรับรองความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ควรเลือกท่อที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากสถาบันที่เชื่อถือได้ เช่น มาตรฐาน UL หรือมาตรฐาน ANSI ซึ่งจะยืนยันได้ว่าท่อมีคุณภาพและปลอดภัยต่อการใช้งานในระยะยาว
- การใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม ก่อนซื้อท่อ IMC ควรตรวจสอบว่าอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นในการติดตั้ง เช่น แคล้ม บุชชิ่ง ล็อคนัท และข้อต่อหนา มีขนาดและประเภทที่เข้ากันได้กับท่อ IMC ที่เลือกหรือไม่ เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น และมั่นใจได้ว่าระบบจะมีความมั่นคงปลอดภัย
- ข้อกำหนดการติดตั้งและข้อกำหนดทางไฟฟ้า การติดตั้งท่อ IMC ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดทางไฟฟ้า เช่น ระยะห่างในการติดตั้ง ความลึกในการฝังท่อ (หากติดตั้งในคอนกรีต) รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยที่ใช้ในอาคารหรือโรงงาน ควรศึกษาข้อกำหนดการติดตั้งและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ท่อสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- ความทนทานและอายุการใช้งาน ควรเลือกซื้อท่อ IMC ที่มีคุณสมบัติการทนทานต่อการใช้งานหนักและสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้ท่อเกิดการสึกหรอ เช่น พื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือเสี่ยงต่อการเกิดสนิม ท่อ IMC ที่มีการเคลือบด้วยสังกะสีหรือสารพิเศษจะมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว