แคลมป์มิเตอร์ คลิปแอมป์ (Clamp Meter)

คุณสมบัติของแคลมป์มิเตอร์

• วัดค่ากระแสไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องตัดต่อสายไฟ
• ใช้ได้ทั้งกระแสสลับ (AC) และกระแสตรง (DC)
• มีขากรรไกรที่ออกแบบให้คล้องสายไฟได้สะดวก
• มีฟังก์ชัน True RMS เพื่อความแม่นยำในการวัดกระแสที่มีคลื่นไฟฟ้าซับซ้อน
• จอแสดงผลดิจิทัลสำหรับอ่านค่าง่ายและชัดเจน
• บางรุ่นสามารถวัดแรงดันไฟฟ้าและความต้านทานได้
• มีฟังก์ชันเรียงกระแสแบบ RMS และ Mean ตามความเหมาะสมของการใช้งาน
• บางรุ่นสามารถใช้วัดค่ากระแสรั่วไหลได้

แคลมป์มิเตอร์มีกี่ประเภท

• แคลมป์มิเตอร์แบบเข็ม (Analog AC Clamp Meter) : วัดค่าด้วยเข็มแสดงผล
• แคลมป์มิเตอร์แบบดิจิตอล (Digital AC Clamp Meter) : ใช้จอแสดงผลดิจิทัล อ่านค่าง่ายและแม่นยำ
• แคลมป์มิเตอร์ AC/DC แบบดิจิตอล (Digital AC/DC Clamp Meter) : วัดได้ทั้งกระแส AC และ DC
• แคลมป์มิเตอร์ AC/DC แบบ RMS (Digital AC/DC Clamp Meter RMS) : วัดค่าได้แม่นยำด้วยเทคโนโลยี True RMS
• แคลมป์มิเตอร์วัดค่ากระแสไฟรั่วไหล (Leakage Current Clamp Meter) : ใช้ตรวจสอบกระแสรั่วไหล
• แคลมป์มิเตอร์วัดกำลังไฟฟ้า (AC Power Clamp Meter) : วัดกำลังไฟฟ้าที่ใช้งานในระบบไฟ

แคลมป์มิเตอร์ มีหน้าที่อะไรบ้าง

• วัดค่ากระแสไฟฟ้าที่ไหลในวงจรได้โดยตรง
• วัดแรงดันไฟฟ้าในระบบได้ในบางรุ่น
• ตรวจสอบกระแสไฟฟ้ารั่วไหลเพื่อป้องกันความเสี่ยง
• วัดค่าความต้านทานในวงจรไฟฟ้า
• ตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้า
• วัดกำลังไฟฟ้าที่ใช้งานในระบบไฟ
• ใช้ในการวิเคราะห์พลังงานที่สูญเสียในระบบไฟ

แคลมป์มิเตอร์ มีประโยชน์อย่างไร

• วัดค่าได้โดยไม่ต้องตัดวงจร ลดความเสี่ยงในการใช้งาน
• ช่วยลดเวลาในการตรวจสอบระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ใช้งานง่ายและปลอดภัย ไม่ต้องสัมผัสสายไฟโดยตรง
• รองรับการวัดในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความแม่นยำสูง
• ป้องกันปัญหาจากการติดตั้งอุปกรณ์ที่มีไฟฟ้ารั่วไหล
• เพิ่มความสะดวกในการบำรุงรักษาและตรวจเช็กอุปกรณ์ไฟฟ้า
• เหมาะกับงานทั้งในอุตสาหกรรมและงานซ่อมบำรุงไฟฟ้าในบ้าน

แคลมป์มิเตอร์ ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อะไรได้บ้าง

• มัลติมิเตอร์ : ใช้วัดแรงดันและค่าความต้านทานร่วมกับแคลมป์มิเตอร์
• เครื่องสอบเทียบ (Calibration Device) : ใช้เพื่อทดสอบและปรับแต่งค่าแคลมป์มิเตอร์ให้แม่นยำ
• เครื่องวัดความต้านทานของดิน (Ground Resistance Tester) : วัดความต้านทานของระบบกราวด์
• เซนเซอร์วัดกระแสไฟฟ้า (Current Sensors) : ใช้เพิ่มความแม่นยำในการวัดกระแส
• เครื่องบันทึกข้อมูล (Data Loggers) : จัดเก็บข้อมูลการวัดในระยะยาว
• ระบบซอฟต์แวร์การจัดการพลังงาน : นำค่าที่วัดไปวิเคราะห์เพื่อการบริหารจัดการพลังงาน

การเลือกใช้งานแคลมป์มิเตอร์กับงานประเภทต่าง ๆ

• งานไฟฟ้ากำลังต่ำ (CAT I) : เหมาะสำหรับงานตรวจวัดในอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
• งานไฟฟ้ากำลังปานกลาง (CAT II) : ใช้สำหรับตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในอาคาร เช่น ปลั๊กไฟและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในอาคาร
• งานไฟฟ้ากำลังสูง (CAT III) : ใช้สำหรับงานไฟฟ้าอุตสาหกรรมและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เชื่อมตรงกับระบบจ่ายไฟ เช่น เบรกเกอร์และแผงควบคุมไฟ
• งานไฟฟ้ากำลังสูงพิเศษ (CAT IV) : เหมาะสำหรับงานวัดกระแสที่แหล่งจ่ายไฟหลักของระบบ เช่น การตรวจสอบหม้อแปลง

ซื้อ แคลมป์มิเตอร์ ที่ประธานการไฟฟ้า